วิธีเสริมหน้าอก

      ความงามสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ความงามภายนอกและความงามจากภายใน ซึ่งทั้งสองประเภท สามารถดัดแปลงได้ คือ

  • ความงามจากภายนอก
  •     การเลือกสวมใส่ เสื้อผ้า
  •     การปรับบุคลิกภาพ
  •     การแต่งเติมหน้า
  •     การทำศัลยกรรม
  • ความงามจากภายใน
  •     การอบรม บ่มนิสัย
  •     จรรยาบันประจำกาย

      แต่แปลกที่คนเรามักจะหันมาใส่ใจการปรับเปลี่ยนภายนอกมากกว่าภายใน ดังเช่นการทำศัลยกรรม โดยเฉพาะการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิง หรือคุณผู้ชายที่รักความงาม ก็มักมองจุดนี้เป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้สรีระสมส่วนแล้ว อันตราย หรือความเสี่ยงก็มีอยู่มากเช่นกัน

ซึ่งวิธีการเสริมหน้าอกด้วยวิธีการทำศัลยกรรมคือ

  • การผ่าตัดใส่ถุงซิลิโคน มีอยู่ 2 รูปทรง คือ ทรงหยดน้ำ กับทรงกลม
  • การร้อยไหม
  • การฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งหากต้องการเพิ่มขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมหายไซส์ แนะนำให้ใช้วิธีการผ่าตัด

ส่วนวิธีการเสริมหน้าอกด้วยวิธีธรรมชาติคือ

  • การส่วมใส่ชุดชั้นในที่มีบาร์
  • การนวด
  • การออกกำลังกาย บริหารกล้ามเนื้อ
  • การรับประทานอาหารที่มีส่วนบำรุงกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก

 

แต่งหน้ารับปริญญา การเพิ่มและลดโอกาส

      โอกาสสำคัญที่เกิดขึ้นในวันที่เราประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษา ถึงแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่เชื่อได้เลยว่าทุกคนที่ผ่านพิธีอันเป็นมงคลนี้จะไม่มีวันลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

      การแต่งหน้ารับปริญญาจึงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่มีทั้งโอกาสเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง ในขณะที่บางคนอาจเป็นการลดโอกาสจนทำให้ขาดความมั่นใจในตัวเองเลยก็มี

      ด้วยสาเหตุอันสืบเนื่องมาจากขั้นตอนการแต่งหน้ารับปริญญา ซึ่งบางคนจากที่ไม่มีเสน่ห์เอาเสียเลย หลับมีโครงสร้างที่สวยงามขึ้น แต่ในทางกลับกัน การแต่งหน้าอาจทำให้คนที่สวยๆ กลายเป็นป้าได้ทันที

แต่งหน้ารับปริญญา

      ซึ่งเหตุผลหลักของผลลัพธิ์ในการเพิ่ม-ลดโอกาสขั้นตอนการแต่งหน้า คือเทคนิคของช่าง ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณามาพร้อมๆกับกำหนดการรับปริญญาที่ควรรู้คือ การเลือกช่างแต่งหน้ารับปริญญาที่เป็นมืออาชีพจริงๆ ซึ่งประกอบไปด้วย

  • สำรวจความน่าเชื่อถือ จากผลการตอบรับของประวัติการแต่งหน้าในกลุ่มลูกค้าที่ผ่านมา เช่น เฟสบุค
  • ตรวจเช็คเทคนิคการแต่งหน้าจากรูปผลงานที่แสดงหน้าเว็บเพจ หรือแฟนเพจ
  • การเลือกใช้เครื่องสำอางต้องมียี่ห้อ ขึ้นห้างเท่านั้น เพื่อให้ติดทนนาน ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันสุขภาพผิวลูกค้าที่อาจเสียหาย เกิดสิวเห่อขึ้นได้

สาเหตุที่ทำให้หลายคนลืมดูแลสุขภาพ

ปัจจัยที่ทำให้สุขภาพร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งเห็นได้จากจำนวนการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในแต่ละปี นั้นเกิดขึ้นจาก

  1. การละเลยเรื่องการตรวจสอบสุขภาพประจำปี นั้นเป็นเพราะโรคที่แอบแฝงอยู่ภายในร่างกายยังไม่ปรากฏอาการให้เห็นจงทำให้ผู้ป่วยชะล่าใจ
  2. คิดเข้าข้างตัวเอง ว่ายังหนุ่ม ยังสาวอยู่ นอนตอนไหนก็ได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการนอนดึกทำให้ร่างกายเสือมโทรมเร็วขึ้นกว่าเดิม
  3. มีความคิดในแง่ลบอยู่ตลอดเวลา จนทำให้สภาพจิตใจเคร่งเครียดอยู่เสมอ ส่งผลต่อระบบสั่งการทางสมองอันทำให้การทำงานภายในร่างกายผิดปกติ
  4. โหมงานหนักจนเกิดไป จนลืมดูว่าร่างกายพร้อมต่อการทำงานหรือไม่
  5. ผู้ที่มีนิสัยชื่นชอบ รับประทานอาหาร(กินจุกจิก) โดยไม่ได้คำนึงถึงปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการ
  6. ประมาท เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ คิดว่าแต่เป็นอาการของสุขภาพอ่อนแอ โดยไม่ทันคิดเลยว่าเป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้าย
  7. ไม่มีความรู้เรื่องการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
  8. ขาดวินัยเกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหาร รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา และไม่ดูแลเรื่องการควบคุมน้ำหนัก
  9. รับประทานอาหารที่แสลงต่ออาการป่วย ซึ่งอาจรู้หรือไม่รู้

ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นล้วนแต่เป็นปัญหาที่เกิดจากตัวผู้ป่วยทั้งสิ้น หากเราทุกคนยอมกำหนดให้การใช้ชีวิตอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมก็สามารถห่างไกลจากโรคร้ายได้เช่นเดียวกัน

ใส่ถุงมือยางทุกครั้งก่อนล้างห้องน้ำ

         น้ำยาล้างห้องน้ำ และเครื่องสุขภัณฑ์ เป็นน้ำยาที่มีฤทธิ์เป็นกรด โดยโครงสร้างทางเคมีของกรดไฮโดรคลอริกหรือกรดเกลือนั่นเอง สำหรับแม่บ้านคงทราลดีว่าเป็นน้ำยาที่ออกฤทธิ์ค่อนข้างรุนแรง โดยประโยชน์ของน้ำยาคือ ใช้ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคบริเวณพื้นห้องน้ำฝาผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ เหมาะสำหรับคราบสกปรกมาก และคราบฝังแน่น

         สำหรับวิธีการใช้ ก่อนใช้ขอแนะนำให้สวมใสอุปกรณ์ป้องกันคือ ถุงมือยาง รองเท้า รวมถึงอุปกรณ์สำหรับการขัด ถู ทำความสะอาด

  1. ใช้ความสะอาด พื้นห้องน้ำ โดยควรที่จะผสมน้ำยากับน้ำในอัตราส่วน 1:2
  2. การทำความสะอาด โถส้วม ควรผสมน้ำยากับน้ำในอัตราส่วน 1:1
  3. หลังทำความสะอาดแล้ว เป็นการฆ่าเชื้อโรค โดยผสมน้ำยากับน้ำในอัตราส่วน 1:2 เทราดลงบนพื้นบริเวณที่ต้องการฆ่าเชื้อ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

         การใช้น้ำยาที่เป็นกรด ควรมีการป้องกับไม่ให้น้ำยาโดนผิวหนังควรที่ใส่ถุงมือยางเพื่อป้องกันทุกครั้งตามที่ได้กล่างไว้ข้างต้นแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยจากสารเคมี และการใช้ก็ควรเป็นไปอย่างระมัดระวังมากที่สุด และที่สำคัญคือการเก็บรักษาน้ำยาล้างทำความสะอาด ควรให้ห่างจากมือเด็กด้วย

ถุงมือยาง | Dipping Glove

แม้ถุงมือไนไตรจะมีคุณภาพสูง ใช้งานได้อย่างปลอดภัยก็ตาม แต่ในเมื่อเราต้องใช้แบบครั้งเดียวทิ้ง เพื่อสุขอนามัยของผู้สวมใส่แล้ว การใช้ถุงมือไนโตรอาจสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายไปนิดหนึ่ง แล้วเราจะทำอย่างไรดี ถุงมือก็ต้องใส่แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และต้องใช้งานเป็นประจำ…ไม่ใช้ก็ไม่ได้ วิธีแก้คือ ก็ทำถุงมือใส่เองสิ

ก่อนจะทำถุงมือยางเองแบบง่ายๆ ต้องเตรียมวัตถุดิบ คือ น้ำยางคอมพาวด์จากยางธรรมชาติ บรรจุลงในภาชนะทรงสูง เพราะเราจะทำถุงมือด้วยการจุ่มมือ (Dipping) ของเราลงในภาชนะที่ใส่น้ำยาง ซึ่งเปรียบเสมือนใช้มือของเราเองเป็นแม่พิมพ์ของถุงมือ แคลเซียมคลอไรด์ บีกเกอร์และแป้ง

เราต้องล้างมือให้สะอาด และทำให้มือของเราแห้งสนิทเสียก่อน แล้วเราจึงค่อยเอามือจุ่มแคลเซียมคลอไรด์ ทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นก็จุ่มมือลงในน้ำยาคอมพาวด์รอบแรก ทิ้งไว้ 5 นาทีให้น้ำยางพอเซ็ทตัวในระดับหนึ่ง แล้วจึงจุ่มมือลงในน้ำยาคอมพาวด์ซ้ำอีกชั้นเพื่อเพิ่มความหนา เมื่อน้ำยางแห้ง เราจึงใช้แป้งทาที่ถุงมือยางเพื่อให้เราลอกถุงมือออกจากมือของเราได้สะดวก ไม่ฉีกขาด

ถุงมือที่ได้จากยางธรรมชาติจะมีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อแรงดึงและการฉีดขาด แม้จะเสื่อมสภาพเร็ว หากสัมผัสกับความร้อน ออกซิเจนหรือโอโซน

มุมมองความนิยมอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่น

คนไทยทุกวันนี้ปฏิเสธไมได้เลยว่าหลายคนชื้นชอบอาหารญี่ปุ่นมาก บางคนถึงขั้นรักการทานอาหารญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ไหนๆ ขอมือคนรักอาหารญี่ปุ่นหน่อยจร้าาาา แต่ต้องยอมรับน่ะค่ะ ว่าธรรมเนียมการทานอาหารญี่ปุ่นนั้นมีอิทธิพลต่อการคนไทยมาก โดยเฉพาะวัยรุ่นที่ชอบเดินห้างนึกไม่ออกว่าจะกินอะไรแน่นอนเลยว่าตัวเลือกแรกจะต้องเป็นอาหารญี่ปุ่นแน่นอน แล้วอาหารไทยล่ะถ้าอยากกินอาหารไทยก็ต้องออกมากินร้านตามสั่งหรือราดแกง แต่ก็ไม่ได้ว่าอาหารไทยบ้านเราไม่อร่อยหรือค่านิยมไม่ดีหรอกน่ะค่ะ แต่อาหารไทยของเรามันอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว กินมาตั้งแต่เกิดจนโตได้ทุกวันก็ไม่ใช่เพราะอาหารญี่ปุ่นหรอกค่ะ แต่ที่นิยมเลือกทานอาหารญี่ปุ่นกันก็เพราะ เป็นอาหารที่แปลกและรสชาติก็ต่างกับอาหารไทย เรียกว่าคนละสไตล์กันเลยทีเดียว แต่ก็เชื่อว่าไม่อร่อยเท่าอาหารไทยหรอกค่ะ และไม่มีคนไทยคนไหนที่กินได้ทุกวันแน่นอนเพราะมันแพงมากกกก >_< สู้ข้าวราดแกงจานละ 30 บาทไม่ได้อร่อยและถูกกว่าด้วย

320px-Salmon_Sushi_and_Sashimi_Platter_-_W_Sushi

แต่หรับคนที่ชอบอาหารญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ได้ว่าไม่ดีน่ะค่ะ มันแล้วแต่คนชอบด้วยสไตล์การกินอาหารของคน ก็เหมือนคนชอบกินเผ็ดกับไม่ชอบกินเผ็ดอ่ะค่ะ จะไปห้ามให้กินเผ็ดก็ไม่ได้ก็คนมันชอบนิ แต่อาหารญี่ปุ่นที่คุณรับประทานกันอยู่นั้นเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพทั้งนี้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับร้านด้วยว่าเขาใส่ใจคุณภาพอาหารมากแค่ไหน ถ้าเป็นในบ้านเราก็คงไม่ค่อยเท่าไร แต่หาเป็นที่ญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของเลยนั้นรับรอบคุณภาพทุกอนูเลยทีเดียวค่ะ ไม่เชื่อก็ต้องลองถามคนที่เคยไปทัวร์ญี่ปุ่นมาแล้วดูน่ะ ว่าไปกินซูชิที่ญี่ปุ่นรสชาติต่างกันซูชิบ้านเราแค่ไหน และเชฟพิถีพิถันในการทำแค่ไหน และขอแนะนำว่าเพื่อนๆ ที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นให้ลองไปทานที่ประเทศญี่ปุ่นลองดูน่ะค่ะ แล้วคุณจะลืมอาหารญี่ปุ่นในห้างบ้านเราไปเลย…

2 วิธีการรักษาการนอนกรน

การนอนกรนสามารถรักษาได้ โดยเริ่มจากการพบแพทย์และทำการตรวจอาการของคุณขณะนอนหลับ ว่ามีการอาการนอนกรนในระดับใด และควรจะใช้วิธีการรักษาด้วยวิธีใด ซึ่งสามารถทำการรักษาได้ 2 วิธี ดังนี้

1. การรักษาด้วยวิธีไม่ผ่าตัด (non-surgical treatment)

  • ลดน้ำหนัก โดยการควบคุมอาหาร หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
  • หลีกเลี่ยงยาหรือเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง เช่น เครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท หรือยาแก้แพ้ชนิดง่วง
  • การปรับเปลี่ยนท่าทางในการนอน เช่น ไม่ควรนอนในท่านอนหงาย ควรนอนในท่าตะแคงจะดีกว่า และนอนให้ศีรษะสูงเล็กน้อย ประมาณ 30 องศาจากแนวพื้นราบ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือสัมผัสควันบุหรี่
  • การใช้เครื่องมือที่เป่าลมเข้าไปในทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้นหรือไม่อุดกั้นขณะนอนหลับ

2.การรักษาด้วยวิธีผ่าตัด (surgical treatment)
ผู้ที่ต้องได้รับการรักษานอนกรนด้วยวิธีการผ่าตัด พบผู้ป่วยมากกว่า 90% มีการอุดกั้นการเดินหายในบริเวณคอหอยส่วนปาก เช่น ต่อมทอนซิล เพดานอ่อน ลิ้นไก่ โคนลิ้น ซึ่งถือว่ามีความผิดปกติทางกายวิภาคจึงต้องทำการผ่าตัด หรือในผู้ป่วยบางรายที่มีผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัวและสังคม ด้วยเหตุผลดังกล่าวเมื่อทำการรักษาด้วยวิธีการไม่ผ่าตัดแล้วยังไม่ได้ผล ก็จะทำการผ่าตัดรักษาเป็นวิธีสุดท้ายที่ได้ผลดีที่สุด

วิธีการใช้ถุงมือยางที่ถูกสุขลักษณะ

การสวมใส่ถุงมือยาง เป็นเครื่องมือสำหรับช่วยป้องกันมือไม่ให้สัมผัสกับเลือด สารเคมี สิ่งสกปรก ฯลฯ ได้โดยตรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาใช้ผลิตถุงมือ ซึ่งอาจเป็นฉนวนต่อสารนั้นๆ หรืออาจเป็นพาหะที่ทำปฏิกิริยาให้ถุงมือเสื่อมคุณภาพลงได้

โดยส่วนใหญ่แล้วถุงมือจะผลิตมาจากยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ เพื่อให้มีคุณสมบัติยืดและกระชับสามารถหยิบจับสิ่งของต่างๆ ได้ถนัด ดังนั้นผู้ใช้ควรเลือกซื้อถุงมือยางที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับมือ เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน

ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วถุงมือยางที่ใช้กันโดยทั่วไปเมื่อใช้เสร็จจะเป็นชนิดที่ต้องทิ้งเลย ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ดังนั้นหลังการใช้ความมีวิธีการถอดที่ปลอดภัย ให้ห่างไกลจากเชื้อโรค หรือสารพิษ ดังนี้

  • จับที่ขอบถุงมือ กลับถุงมือให้ด้านในออกมาอยู่ด้านนอก โดยใช้มือข้างที่ยังไม่ได้ถอด ถอดออก
  • ใช้นิ้วมือข้างที่ถอดเสร็จแล้ว สอดเข้าไปที่ถุงมืออีกข้าง เพื่อกลับด้านเอาด้านในออกด้านนอก (ระวังมือสัมผัสกับสารเคมี เพื่อลดอัตราการแพร่เชื้อ)
  • ทิ้งถุงมือลงในถังขยะที่ป้องกันการแผร่เชื้อ
  • ล้างมือด้วยน้ำยาให้สะอาด

การเสริมจมูกด้วยวิธีการฉีดฟิลเลอร์

การเสริมความสวยความงามด้วยการปรับแต่งเคร้าโครง รูปหน้าเดิมให้ได้สัดส่วนที่ดูดี เรียว กระชับ ไม่จำเป็นต้องเสียงเลือด หรือเจ็บตัวให้มากก็สามารถดูดี มีสเน่ห์ได้  นั้นคือการเสริมจมูก ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการใส่ซิลโคน ร้อยไหม และการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นที่นิยมทำกันมากที่สุด นั้นเป็นเพราะไม่เจ็บตัวมาก ก็สวยได้ แต่ใช่ว่าจมูกของแต่ละคนจะสามารถทำการฉีดฟิลเลอร์แล้วได้ผลดี เพราะบางคนจำเป็นต้องใช้วิธีการใส่ซิลิโคนจึงจะสามารถเห็นได้ถึงความแตกต่าง โดยผู้ที่มีรูปจมูกที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ได้แก่ ดั่งหรือสันดั่งจมูกสองข้างไม่เท่ากัน ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปลายจมูสวยอยู่แล้ว แต่ต้องการเสริมให้เป็นรูปหยดน้ำ เพราะนั้นจะเป็นผลเสียต่อผู้ทำมากกว่าประโยชน์ เนื่องจากฟิลเลอร์หนัก จำทัให้ปลายจมูกเตี้ยกว่าเดิม ซึ่งการฉีดที่ดั่งจะมีกระดูกที่รองรับนำหนักของฟิลเลอร์ได้

ซึ่งการเสริมจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์สารจะสามารถสลายไปเองภายในระยะเวลา 3-6 เดือน แล้วแต่ความเข้มข้นของค่า HA แต่ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายได้หมด อันเนื่องมาจากการใช้สารที่มีปริมาณมากเกินไป จนทำให้ฟิลเลอร์รวมตัวกันมากขึ้น ทั้งนี้ปัญหาของฟิลเลอร์ที่ไม่สลายอาจเป็นเพราะแพทย์ผู้ให้การรักษาหรือเสริมจมูกใช้ปริมาณที่ไม่เหมาะสม ด้วยเทคนิคและวิธีการของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนเสริมจมูกควรรับคำแนะนำจากทางแพทย์เสียก่อนว่า รูปจมูกของท่านเหมาะแก่การทำด้วยวิธีฉีดฟิลเลอร์หรือใส่ซิลิโคนจีงจะเหมาะสม เพื่อเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาตั้งแต่การตัดสินใจ

รู้หรือไม่ อาหารอาจก่อมะเร็งได้

นั้นเป็นเพราะอาหารเหล่านั้นไม่มีมาตรฐานการผลิตที่ดี หรือไม่ได้เลือกใช้สารหล่อลื้น(Food Grade Lubricant) ในเครื่องจักรเพื่อสายการผลิตอาหาร ทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารเคมีอันก่อให้เกิดอันตรายกับสุขภาพร่างกายของผู้บริโภคได้ เช่น สารไดออกซินที่เกิดจากการสูดดมและการสะสมอยู่ภายในร่างกายเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุที่ให้เกิดโรค มะเร็งในระบบทางเดินหายใจ ตับ ท่อน้ำดี ฯลฯ

ดังนั้นก่อนเลือกซื้อหรืออุปโภคบริโภคสิ่งใด ควรรู้จักคิด พิจารณา วิเคราะห์ถึงความน่าเชื่อถือ และมาตรฐานการผลิตให้รอบครอบ ซึ่งหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานการใช้สารล่อลื่น Food Grade Lubricant จะต้องมีเอกสารรับรองเช่น NSF H 1 ( Incidental Food Contact ),NSF 3H,  NSF HT-1   และ  FDA Code 21 CFR 178.3570 เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกายที่ห่างไกลโรคร้ายต่างๆ

ทั้งนี้เองผู้ประกอบการทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตอาหารเองจะได้มีความอุ่นใจเมื่อเลือกใช้ Food Grade Lubricant ว่าอาหารเหล่านั้นจะไม่เป็นสาเหตุทำให้ธุรกิจเกิดความไม่น่าเชื่อถือ และทำให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคจนทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต ฟ้องร้องจนทำให้เสียชื่อเสียง ซึ่งเมื่อคิดถึงความคุ้มค่าถ้าหากอุตาสาหกรรมของท่านเลือกระหว่างสารหล่อลื่นอาหารทั่วไปกับฟู้ดเกรดแล้ว รับรองได้ว่าฟู้ดเกรดจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของท่านเสียหาย ซึ่งได้สั่งสมความน่าเชื่อถือทางด้านคุณภาพมาโดยตลอด